คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง
การนับ หรือ การคำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ
ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ
ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"
วิวัฒนาการคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ยุคแรก
อยู่ระหว่างปี
พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ.
2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง
จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย
คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง
อยู่ระหว่างปี พ.ศ.
2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์
โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ
มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก
ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น
คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม
อยู่ระหย่างปี พ.ศ.
2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม
(Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมายทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซ้อนมาก
คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่
คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very
Large Scale Integration : VLSI) เช่น
ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว
คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น
โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง
คอมพิวเตอร์มีกลไกการทำงาน
4
อย่าง
1. รับข้อมูล (Input) ซึ่งรับข้อมูลมาจากอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล(input
unit) ได้แก่ คีย์บอร์ด, เม้าส์, ไมโครโฟน, เครื่องScan
2. ประมวลผล (Processing) ซึ่งข้อมูลที่คอมพิวเตอร์รับเข้ามาจะถูกประมวลผลด้วย CPU เพื่อแปลงออกมาเป็นข้อมูลตามที่ซอฟแวร์กำหนด
3. แสดงผล (Output) คอมพิวเตอร์จะแสดงผลที่ประมวลผลแล้วออกมาอุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ (output
unit) ได้แก่ จอภาพ, เครื่องพิมพ์, ลำโพง
4. เก็บข้อมูล (Storage) เมื่อประมวลผลเสร็จแล้ว ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในหน่วยเก็บข้อมูล ได้แก่
ฮาร์ดดิส, CD-ROM1. รับข้อมูล
(Input) ซึ่งรับข้อมูลมาจากอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล(input
unit) ได้แก่ คีย์บอร์ด, เม้าส์, ไมโครโฟน, เครื่องScan
ประเภทของคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งออกเป็น
4
ประเภท ได้แก่
1. Super Computer เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้สูงสุด
2. Mainframe Computer เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนความจำน้อยลงและช้ากว่า
Super
Computer
สามารถทำงานผ่านระบบเครือข่าย (Network)
3. Mini Computer เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่มีความเร็วสูง
มีการเก็บข้อมูลไว้ใน Harddisk สามรถอ่านและเขียนข้อมูลได้เร็ว
4. Micro Computer หรือที่เรียกว่า Personal
Computer : PC เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กมีส่วนความจำและการประมวลผลช้าที่สุด
ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer
System)
ระบบ (System) คือกลุ่มขององค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์กันและทำงานร่วมกัน
ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์จะมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
ซอฟต์แวร์ (Software)
บุคลากร (Peopleware)
ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์
1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจำนวนมากและเป็นเวลานาน
2. ความเร็ว (Speed) หมายถึง
ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล (Processing Speed) โดยใช้เวลาน้อย
3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง
ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลตามลำดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ
4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง
ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
ความน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
- ด้านการศึกษา : มีการนำมาใช้ในการเรียนการสอน
และจัดเก็บข้อมูลการลงทะเบียนของนักเรียนทำให้ง่ายต่อการค้นหา
- ด้านวิทยาศาสตร์ : นำมาใช้คำนวณข้อมูลที่ซับซ้อน
ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
- ด้านการสื่อสาร : ช่วยในการส่งสัญญาณการสื่อสารให้ชัดเจนขึ้น เช่น สามารถพูดคุยเห็นหน้ากันได้ผ่านโปรแกรม
webcam หรือการคุยทางไกลข้ามประเทศผ่านโปรแกรม skype
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น